Cyber Security: ความปลอดภัยที่องค์กรสาธารณสุขไม่อาจมองข้าม

ดิจิทัลคือหัวใจ—แต่ไซเบอร์ซีเคียวริตี้คือเกราะป้องกัน

ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในภาคสาธารณสุขอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Health Record: EHR), ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล (Hospital Information System: HIS) หรืออุปกรณ์ IoT ทางการแพทย์ที่ส่งข้อมูลชีพจรแบบเรียลไทม์ ข้อมูลผู้ป่วยจึงกลายเป็นศูนย์กลางของการดูแลรักษาที่ต้องอาศัยความรวดเร็ว แม่นยำ และความปลอดภัยสูงสุด

Cyber Security for Hospital

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้ได้กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มแฮ็กเกอร์ทั่วโลก การโจมตีทางไซเบอร์ต่อโรงพยาบาลและหน่วยงานสาธารณสุขจึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น รายงานจาก Emsisoft ปี 2023 ระบุว่า มีโรงพยาบาลอย่างน้อย 141 แห่งทั่วโลกตกเป็นเหยื่อของแรนซัมแวร์ เพิ่มขึ้นกว่า 84% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ในประเทศไทย รพ.สระบุรีเคยถูกโจมตีในปี 2563 จนระบบต้องกลับไปใช้แฟ้มกระดาษ และในเดือนมีนาคม 2567 ยังมีกรณีข่าวลือว่าข้อมูลผู้ป่วยกว่า 2.2 ล้านรายการรั่วไหล จนกระทรวงสาธารณสุขต้องรีบออกมาแถลงการณ์ชี้แจง

สรุป: ยิ่งพึ่งพาดิจิทัลมากเท่าไร “ความพร้อมด้าน Cyber Security” ยิ่งเป็นตัวกำหนดความอยู่รอดขององค์กรสาธารณสุข


ภัยไซเบอร์ที่องค์กรสาธารณสุขควรระวัง

ภัยคุกคามลักษณะการโจมตีผลกระทบต่อโรงพยาบาล
Ransomwareล็อกไฟล์หรือขโมยข้อมูลก่อนเรียกค่าไถ่ระบบหยุดทำงาน ต้องจ่ายค่าไถ่ สูญเสียความเชื่อถือ
Phishing Emailsอีเมลปลอมหลอกให้คลิกลิงก์หรือใส่ข้อมูลบัญชีผู้ดูแลระบบถูกขโมย เสี่ยงติดมัลแวร์
Data Breachการรั่วไหลของข้อมูลผู้ป่วยผ่านช่องโหว่ระบบข้อมูลรั่ว เสี่ยงการฟ้องร้องภายใต้ PDPA
DDoS Attackถล่มปริมาณทราฟฟิกจนระบบเซิร์ฟเวอร์ล่มระบบนัดหมาย/เทเลเมดิซีนหยุดชะงัก รายได้สูญเสีย

ผลกระทบจากการถูกโจมตีไซเบอร์ในโรงพยาบาล

  • ระบบให้บริการหยุดชะงัก: ส่งผลต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยโดยตรง

  • ค่าปรับและบทลงโทษตามกฎหมาย: หากไม่แจ้งการรั่วไหลภายใน 72 ชั่วโมง อาจถูกปรับตาม PDPA

  • ต้นทุนการฟื้นฟูสูง: งานวิจัยของ Ponemon Institute ระบุว่าค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสูงถึง 9.23 ล้านดอลลาร์ และใช้เวลากู้คืนระบบถึง 287 วัน

  • ความเชื่อมั่นของประชาชนลดลง: เมื่อข้อมูลสุขภาพที่ละเอียดอ่อนถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ


กรอบการทำงานและมาตรฐานที่แนะนำ

  • NIST Cybersecurity Framework (CSF): กรอบการทำงานด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ที่ใช้แนวทาง 5 ฟังก์ชัน ได้แก่ Identify, Protect, Detect, Respond, Recover

  • ISO/IEC 27799: แนวทางเฉพาะสำหรับการบริหารความปลอดภัยข้อมูลสุขภาพ

  • Alignment กับ PDPA และ HIPAA: เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลตามข้อกำหนดทั้งในประเทศและสากล

แนวทางการป้องกันที่ครอบคลุมด้วย Solution จาก AskMe

1. สำรอง-กู้คืนข้อมูลแบบ Enterprise-grade ด้วย Arcserve UDP 10

เพื่อปกป้องข้อมูลทางการแพทย์ที่มีความละเอียดอ่อนและมีมูลค่าสูง องค์กรสาธารณสุขควรเลือกโซลูชันที่สามารถรับมือกับภัยคุกคามในยุคใหม่ได้อย่างครอบคลุม ซึ่ง Arcserve Unified Data Protection (UDP) Version 10 คือทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวอย่างแท้จริง

Arcserve UDP 10

จุดเด่นหลักของ Arcserve UDP 10:

  • Backup และ Disaster Recovery แบบครบวงจร: รองรับการสำรองข้อมูลทั้งแบบ On-Premises, Hybrid Cloud และ Multi-Cloud ในโซลูชันเดียว

  • Agentless Backup: สำรองข้อมูลจากระบบ Virtualization เช่น VMware และ Hyper-V ได้โดยไม่ต้องติดตั้ง Agent ช่วยลดภาระการดูแลระบบ

  • Immutable Storage: ปกป้องข้อมูลจากการโจมตีของ Ransomware ด้วยการจัดเก็บข้อมูลแบบไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือถูกลบได้

  • Instant VM Recovery: กู้คืนระบบเซิร์ฟเวอร์และระบบ HIS/EHR ได้ภายในไม่กี่นาที ลด Downtime ให้น้อยที่สุด

  • Global Source-side Deduplication: ลดพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลสำรองและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบได้อย่างมหาศาล

  • Advanced Cloud Integration: รองรับการเชื่อมต่อกับ Cloud ชั้นนำ เช่น AWS, Microsoft Azure และ Arcserve Cloud Services เพื่อความยืดหยุ่นสูงสุดในการกู้คืนข้อมูล

  • Unified Management Console: บริหารจัดการนโยบาย Backup/Recovery ได้จากศูนย์กลางผ่าน Web-based UI

  • Multi-layered Ransomware Protection: เสริมความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี Sophos Intercept X (เสริมออฟชั่น) สำหรับการป้องกันภัยไซเบอร์เชิงลึก

Checklist ก่อนใช้งาน Arcserve UDP 10:

  • ประเมินเป้าหมาย Recovery Time Objective (RTO) และ Recovery Point Objective (RPO)

  • ออกแบบนโยบาย Immutable Backup ตาม 3-2-1-1 Rule

  • ทดสอบ Disaster Recovery Drill เป็นประจำ (อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง) เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการกู้คืนทำงานได้จริง


ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Arcserve UDP 10:
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Arcserve Unified Data Protection (UDP) – AskMe Solutions

2. ระบบป้องกันภัยเชิงรุกด้วย WatchGuard

ในยุคที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนและเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การปกป้องเครือข่ายและอุปกรณ์ปลายทางแบบเชิงรุกจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดย WatchGuard Technologies นำเสนอโซลูชันครบวงจรที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรสาธารณสุขสามารถป้องกัน ตรวจจับ และตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกระดับ


WatchGuard Network Security

WatchGuard Firebox Firewall: เกราะป้องกันแนวหน้าอัจฉริยะ

WatchGuard Firebox คืออุปกรณ์ Firewall อัจฉริยะที่รวมเอาหลายเทคโนโลยีความปลอดภัยไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ภายใต้แนวคิด Total Security Suite

คุณสมบัติเด่นของ Firebox:

  • Advanced Threat Protection (ATP): ระบบ Intrusion Prevention System (IPS), Gateway Antivirus, และ WebBlocker ป้องกันภัยคุกคามตั้งแต่ระดับ Gateway

  • Zero-Trust Application Control: ควบคุมแอปพลิเคชันเพื่อปิดช่องโหว่ที่ไม่จำเป็น

  • Cloud-Based Sandboxing: วิเคราะห์ไฟล์ที่น่าสงสัยแบบเรียลไทม์ผ่าน Threat Detection & Response (TDR)

  • Branch Office VPN และ Mobile VPN: เชื่อมต่อสาขาและพนักงานภายนอกองค์กรอย่างปลอดภัย ด้วยการเข้ารหัสขั้นสูง

  • Dimension™ Visibility Platform: Dashboard อัจฉริยะที่ให้มุมมองภาพรวมของเครือข่าย พร้อมแจ้งเตือนภัยคุกคามแบบเรียลไทม์

  • SD-WAN Ready: ช่วยให้เชื่อมต่อระหว่างสาขาด้วยประสิทธิภาพสูงในต้นทุนที่ประหยัดกว่า MPLS

สรุปสั้น ๆ: Firebox ไม่ใช่แค่ Firewall ทั่วไป แต่เป็นแพลตฟอร์ม Unified Threat Management (UTM) ที่ออกแบบมาเพื่อเครือข่ายสุขภาพที่ต้องการการปกป้องแบบครบวงจร


WatchGuard Endpoint Security: ปกป้องปลายทางอัจฉริยะทุกอุปกรณ์

เพื่อเสริมความปลอดภัยในระดับ Endpoint เช่น เวิร์กสเตชัน, โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์ทางการแพทย์ IoT — WatchGuard นำเสนอ Endpoint Security ที่ผสานเทคโนโลยีการป้องกันภัยคุกคามและการตรวจจับขั้นสูงไว้ในโซลูชันเดียว

คุณสมบัติเด่นของ Endpoint Security:

  • AI-Based Malware Detection: ตรวจจับมัลแวร์และ Zero-Day Attack โดยไม่ต้องพึ่งพาซิกเนเจอร์แบบเดิม

  • Endpoint Detection and Response (EDR): ตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติ วิเคราะห์เหตุการณ์ และทำ Isolation เครื่องที่ติดเชื้อโดยอัตโนมัติ

  • ThreatSync™ Integration: เชื่อมโยงข้อมูลภัยคุกคามกับ Firebox Firewall เพื่อการตอบสนองแบบอัตโนมัติ (Automated Threat Response)

  • Patch Management: ตรวจสอบและบริหารจัดการการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่สำคัญเพื่อลดช่องโหว่

  • Data Control and Encryption: ปกป้องข้อมูลสำคัญในอุปกรณ์ปลายทางด้วยการเข้ารหัสและควบคุมการเข้าถึงไฟล์อย่างละเอียด

สรุปสั้น ๆ: WatchGuard Endpoint Security ไม่ได้เพียงแค่ป้องกันไวรัส แต่ยกระดับการตรวจจับภัยคุกคามเชิงรุกให้ครอบคลุมทั้ง Prevention, Detection และ Response


ความได้เปรียบของ WatchGuard ที่โดดเด่น

  • Unified Security Platform™: รวมการบริหารจัดการ Firewall, Endpoint, Multi-Factor Authentication (MFA) และ Wi-Fi Security ไว้ในคอนโซลเดียว

  • Automation Core: ช่วยลดภาระทีม IT ด้วยการตอบสนองภัยคุกคามอัตโนมัติ

  • Cloud-Ready: รองรับการบริหารผ่าน Cloud Console เพิ่มความสะดวกในการจัดการหลายไซต์และสาขา

  • ใช้งานง่ายและติดตั้งรวดเร็ว: เหมาะสำหรับโรงพยาบาลและคลินิกที่ต้องการระบบที่พร้อมใช้งานโดยไม่ต้องซับซ้อน

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ WatchGuard:
สามารถศึกษารายละเอียดโซลูชันเพิ่มเติมได้ที่ www.watchguard.co.th

3. Security Awareness Training: เสริมเกราะป้องกันจากบุคลากรภายใน

แม้ว่าจะมีโครงสร้าง Cybersecurity ที่แข็งแรงเพียงใด หากบุคลากรขาดความรู้ในการระวังภัยไซเบอร์ ความเสี่ยงยังคงมีอยู่ การฝึกอบรม Security Awareness จึงเป็นเสาหลักสำคัญ

KnowBe4 Training Phish Analyze

โซลูชันแนะนำ:

  • KnowBe4:
    แพลตฟอร์มระดับโลกที่เน้นการฝึกอบรมพนักงานให้รู้เท่าทันภัยไซเบอร์ พร้อมจำลองสถานการณ์ Phishing Attack จริง เพื่อสร้างการตอบสนองอัตโนมัติและลด Human Error

  • AKOLabs.net:
    ผู้ให้บริการอบรมไซเบอร์ซีเคียวริตี้ที่เข้าใจบริบทองค์กรในประเทศ มีหลักสูตรครบถ้วนทั้งแบบออนไลน์และ On-site พร้อมวัดผลแบบ Pre/Post Assessment เพื่อประเมินประสิทธิผลการอบรม


ประโยชน์จากการอบรม Security Awareness

  • ลดโอกาสการคลิกลิงก์ Phishing ลงกว่า 90% ภายใน 1 ปี

  • สร้าง “Human Firewall” เป็นปราการด่านแรกที่แข็งแกร่ง

  • ช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามมาตรฐาน PDPA, HIPAA และ ISO/IEC 27799 ได้อย่างสมบูรณ์

  • สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ปลอดภัยไซเบอร์อย่างแท้จริง

เสริมเกราะสุดท้ายด้วยแนวทาง Zero Trust และ Least Privilege

แนวทางแนวปฏิบัติแนะนำ
Zero Trust Network Access (ZTNA)แยก VLAN ของ IoT ออกจากระบบสำนักงาน
Multi-Factor Authentication (MFA)เปิดใช้ในระบบสำคัญ เช่น VPN, HIS, EHR Admin
Role-Based Access Control (RBAC)จำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลตามบทบาทหน้าที่

Roadmap 5 ขั้นสู่การเป็น "Cyber-Resilient Hospital"

  1. Assess: สำรวจช่องโหว่ด้วย Vulnerability Scan และ Penetration Test

  2. Design: วางโครงสร้างระบบสำรองข้อมูล, Segment เครือข่าย

  3. Deploy: ติดตั้ง Arcserve Backup และ WatchGuard พร้อมเปิดใช้ MFA

  4. Train: จัดอบรม Security Awareness และจำลอง Phishing Simulation

  5. Improve: อัปเดต Incident Response Plan และติดตามผล KPI อย่างต่อเนื่อง

สรุป: Cyber Security คือรากฐานของการให้บริการสุขภาพยุคใหม่

ในโลกที่ข้อมูลสุขภาพเปรียบเสมือน “ชีวิตดิจิทัล” ของผู้ป่วย องค์กรสาธารณสุขต้องมองการปกป้องข้อมูลไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาคุณภาพชีวิตของผู้รับบริการ

ด้วยการวางระบบสำรองข้อมูลที่เชื่อถือได้อย่าง Arcserve, เสริมการป้องกันเชิงรุกด้วย WatchGuard, และพัฒนาบุคลากรด้วย Security Awareness Training จาก KnowBe4 และ AKOLabs องค์กรจะสามารถ:

  • ลดโอกาสสูญเสียข้อมูล

  • รักษาความต่อเนื่องในการให้บริการ

  • ปฏิบัติตามข้อกำหนด PDPA และ NCSA อย่างมั่นใจ

  • สร้างความเชื่อมั่นจากประชาชนและหน่วยงานกำกับดูแล

สนใจสร้างองค์กรสาธารณสุขที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง?

ติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญของ AskMe Solutions & Consultants วันนี้ เพื่อวางแผนวางระบบ Cyber Security และการสำรองข้อมูลอย่างมืออาชีพ พร้อมรับการประเมินความเสี่ยงและ Proof of Concept ฟรี!

Related Posts
Arcserve Webinar: 5 เทคนิคลดพื้นที่จัดเก็บ Deduplication Backup บน Storage ให้ได้ถึง 90%
Arcserve Deduplication Seminar

Arcserve Webinar: 5 เทคนิคลดพื้นที่จัดเก็บ Deduplication Backup บน Storage ให้ได้ถึง 90% Read more

WatchGuard AuthPoint Workshop in Chiang Mai #1st On June 21, 2019
WatchGuard AuthPoint Workshop

WatchGuard AuthPoint Workshop in Chiang Mai ครั้งที่ 1 June 21, Read more

WatchGuard AuthPoint Workshop in Chiang Mai #2nd on August 2, 2019
งาน WatchGuard AuthPoint

WatchGuard AuthPoint Multi-factor Authentication (MFA) workshop ครั้งที่ 2 ที่เชียงใหม่ งาน Read more

หมดปัญหา Ransomware ด้วยโซลูชันปกป้องและ สำรองข้อมูล กับ Arcserve Appliances 9000 Series
Arcserve_Sophos

โซลูชั่นระบบป้องกันและสำรองข้อมูลแบบ Ransomware-Free ด้วย Arcserve Appliances Arcserve ผู้ให้บริการด้าน Backup Data Protection Read more