User manual Microsoft Copilot with Microsoft 365
ในบทความนี้ เราจะนำคุณเข้าสู่โลกของ Copilot ด้วยคำแนะนำที่ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่การตั้งค่าเบื้องต้นไปจนถึงการใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูง พร้อมเคล็ดลับที่มีประโยชน์สำหรับผู้ใช้ทุกระดับ ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มต้นหรือมีประสบการณ์ใช้งาน Copilot มาก่อน บทความนี้จะเป็นคู่มือการใช้งานให้คุณสามารถใช้ Copilot ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคุณอย่างแน่นอน พร้อมเรียนรู้วิธีการทำงานร่วมกับ Copilot ในทุกขั้นตอนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในทุกงานของคุณ
การเปิดใช้ Copilot ใน Word

1.การตั้งค่า Copilot

ขั้นตอนการติดตั้ง

ตรวจสอบสิทธิ์การใช้งาน

  • ตรวจสอบแผนการใช้งาน Microsoft 365: ตรวจสอบว่าแผนการใช้งาน Microsoft 365 ของคุณรองรับการใช้งาน Copilot หรือไม่ หากไม่แน่ใจให้ติดต่อผู้ดูแลระบบหรือทีมไอทีขององค์กร

การตั้งค่าจากผู้ดูแลระบบ (สำหรับองค์กร)

  • เข้าไปที่ศูนย์การดูแล Microsoft 365: ผู้ดูแลระบบต้องเข้าสู่ระบบที่ Microsoft 365 Admin Center
  • ไปที่การตั้งค่าบริการ: เลือก “Settings” หรือ “Services & add-ins”
  • เปิดใช้งาน Copilot: ค้นหาและเปิดใช้งาน Copilot สำหรับผู้ใช้ในองค์กร

การติดตั้งและการเปิดใช้งาน (สำหรับผู้ใช้ทั่วไป)

  • อัปเดตแอปพลิเคชัน: ตรวจสอบว่าแอปพลิเคชัน Microsoft 365 ของคุณ (เช่น Word, Excel, PowerPoint) ได้รับการอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดการตั้งค่า Copilot
  • เข้าสู่ระบบ: เข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Microsoft 365 ของคุณที่มีสิทธิ์การใช้งาน
  • เปิดแอปพลิเคชัน: เปิดแอปพลิเคชัน Microsoft 365 ที่คุณต้องการใช้งาน เช่น Word, Excel, หรือ PowerPoint
  • เริ่มใช้งาน Copilot: หาก Copilot ได้รับการเปิดใช้งานในบัญชีของคุณ คุณจะเห็นฟีเจอร์นี้ปรากฏขึ้นภายในแอปพลิเคชัน

การใช้งาน Copilot

  • เปิดแอปพลิเคชัน: เปิดแอปพลิเคชันที่ต้องการใช้ เช่น Word, Excel, PowerPoint, Outlook หรือ Teams 
  • ใช้ฟีเจอร์ Copilot: ฟีเจอร์ Copilot จะปรากฏเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือภายในแอปพลิเคชัน เช่น การแนะนำเนื้อหา การสร้างสูตร หรือการวิเคราะห์ข้อมูล

การปรับแต่งเบื้องต้น

การตั้งค่าภาษาและภูมิภาค

  • เปิดแอปพลิเคชัน Microsoft 365: เช่น Word, Excel, หรือ PowerPoint
  • ไปที่การตั้งค่า: เลือก “File” > “Options” > “Language”
  • ตั้งค่าภาษา: เลือกภาษาที่คุณต้องการให้ Copilot ใช้ในการเสนอแนะและการวิเคราะห์ข้อมูล
การปรับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

การปรับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

  • ไปที่การตั้งค่า: ในแอปพลิเคชัน Microsoft 365 เลือก “File” > “Options” > “Trust Center” > “Trust Center Settings”
  • ความเป็นส่วนตัว: เลือก “Privacy Options” และปรับการตั้งค่าตามความต้องการ เช่น การแชร์ข้อมูลการใช้งานกับ Microsoft เพื่อปรับปรุง Copilot

การตั้งค่าการใช้งาน Copilot ในแอปพลิเคชัน

  • Word
    • เปิดการแนะนำเนื้อหา: ไปที่ “File” > “Options” > “Proofing” และเปิดใช้งานการตรวจสอบไวยากรณ์และสไตล์การเขียน
    • ปรับการแนะนำการเขียน: เลือก “Settings” ในการตรวจสอบไวยากรณ์เพื่อปรับการแนะนำการเขียนของ Copilot
  • Excel
    • เปิดใช้งานการวิเคราะห์ข้อมูล: ไปที่ “File” > “Options” > “Formulas” และเปิดใช้งานฟังก์ชันการวิเคราะห์และการแนะนำสูตร
    • ปรับการแนะนำสูตร: เลือก “Settings” ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับการแนะนำสูตรของ Copilot
เปิดการแนะนำการออกแบบใน Power point
  • PowerPoint
    • เปิดการแนะนำการออกแบบ: ไปที่ “File” > “Options” > “General” และเปิดใช้งานการแนะนำการออกแบบ
    • ปรับการแนะนำการออกแบบ: เลือก “Settings” ในการออกแบบเพื่อปรับการแนะนำการออกแบบของ Copilot
การตั้งค่าการแจ้งเตือน

การตั้งค่าการแจ้งเตือน

  • ไปที่การตั้งค่า: เลือก “File” > “Options” > “Advanced”
  • การแจ้งเตือน: ปรับการตั้งค่าการแจ้งเตือนของ Copilot เช่น การแจ้งเตือนการแนะนำใหม่ๆ หรือการวิเคราะห์ข้อมูล

การใช้งาน Copilot ใน Outlook และ Teams

เปิดการแนะนำอีเมลล์ใน Outlook
  • Outlook
    • เปิดการแนะนำอีเมล: ไปที่ “File” > “Options” > “Mail” และเปิดใช้งานการแนะนำการเขียนและการตอบกลับ
    • ปรับการแนะนำอีเมล: เลือก “Settings” ในการเขียนอีเมลเพื่อปรับการแนะนำของ Copilot
  • Teams
    • เปิดการแนะนำการประชุม: ไปที่ “Settings” > “General” และเปิดใช้งานการแนะนำการจดบันทึกและการสรุปการประชุม
    • ปรับการแนะนำการประชุม: เลือก “Settings” ในการประชุมเพื่อปรับการแนะนำของ Copilot

2.ฟีเจอร์ Copilot

ฟีเจอร์เด่น

การเขียนและการแก้ไขเนื้อหาใน Word

  • การแนะนำการเขียน: Copilot ช่วยแนะนำการเขียนประโยคที่ชัดเจนและถูกต้องตามหลักไวยากรณ์
  • การแก้ไขและปรับปรุงเนื้อหา: Copilot สามารถแก้ไขเนื้อหาให้ตรงกับสไตล์การเขียนและโทนเสียงที่ต้องการ
  • การสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ: สร้างเนื้อหาใหม่จากคำอธิบายหรือหัวข้อที่กำหนด

การวิเคราะห์และการจัดการข้อมูลใน Excel

  • การสร้างและแนะนำสูตร: Copilot ช่วยแนะนำสูตรที่เหมาะสมสำหรับการคำนวณต่างๆ ในตารางข้อมูล
  • การวิเคราะห์ข้อมูล: Copilot สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างกราฟหรือสรุปข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย
  • การตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดในสูตร: Copilot สามารถตรวจสอบสูตรและเสนอแนวทางแก้ไขข้อผิดพลาด

การออกแบบและการนำเสนอใน PowerPoint

  • การแนะนำการออกแบบสไลด์: Copilot ช่วยแนะนำการออกแบบสไลด์ให้ดูเป็นมืออาชีพและน่าสนใจ
  • การสร้างสไลด์อัตโนมัติ: สร้างสไลด์นำเสนอจากข้อมูลหรือหัวข้อที่มี
  • การเพิ่มกราฟิกและภาพประกอบ: Copilot ช่วยแนะนำและเพิ่มกราฟิกที่เหมาะสมลงในสไลด์

การเขียนและการจัดการอีเมลใน Outlook

  • การเขียนอีเมล: Copilot ช่วยแนะนำการเขียนอีเมลที่ชัดเจนและเป็นมืออาชีพ
  • การตอบกลับอัตโนมัติ: Copilot สามารถช่วยเขียนและตอบกลับอีเมลอัตโนมัติตามเนื้อหาที่กำหนด
  • การจัดการอีเมล: Copilot ช่วยจัดลำดับความสำคัญของอีเมลและเสนอการจัดการที่มีประสิทธิภาพ

การจัดการการประชุมและการสื่อสารใน Teams

  • การจดบันทึกการประชุม: Copilot สามารถช่วยจดบันทึกการประชุมและสร้างสรุปการประชุมที่ชัดเจน
  • การแนะนำการสื่อสาร: Copilot ช่วยแนะนำการสื่อสารที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกัน
  • การจัดการงานและโครงการ: Copilot ช่วยประสานงานและติดตามความคืบหน้าของโครงการ

การใช้งานฟีเจอร์ AI อื่นๆ

  • การแปลภาษา: Copilot สามารถแปลเนื้อหาภายในแอปพลิเคชันต่างๆ ได้
  • การสร้างเนื้อหาจากเสียงพูด: Copilot สามารถสร้างเนื้อหาจากการบันทึกเสียงพูดในการประชุมหรือการบรรยาย

การใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ

การใช้งานฟีเจอร์ Copilot ใน Word

  • การสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ:
    1. คลิกที่แท็บ “Insert” และเลือก “Copilot”
    2. เลือก “Generate Content”
    3. ระบุหัวข้อหรือคำอธิบายสั้นๆ ที่ต้องการให้ Copilot สร้างเนื้อหา
    4. Copilot จะสร้างเนื้อหาจากข้อมูลที่ระบุ
  • การเขียนและการแก้ไขเนื้อหา:
    1. เปิดเอกสารใน Word
    2. คลิกที่แท็บ “Home” และเลือก “Copilot” จากเมนู
    3. พิมพ์หรือวางเนื้อหาที่ต้องการให้ Copilot ช่วยตรวจสอบและแก้ไข
    4. Copilot จะเสนอคำแนะนำในการแก้ไขไวยากรณ์ การใช้คำ และการจัดรูปแบบเนื้อหา

การใช้งานฟีเจอร์ Copilot ใน Excel

  • การใช้สูตร:
    1. คลิกที่เซลล์ที่ต้องการใช้สูตร
    2. คลิกที่แท็บ “Formulas” และเลือก “Copilot”
    3. เลือก “Suggest Formula”
    4. Copilot จะเสนอสูตรที่เหมาะสมสำหรับการคำนวณในเซลล์นั้นๆ
  • การวิเคราะห์ข้อมูล:
    1. เปิดตารางข้อมูลใน Excel
    2. คลิกที่แท็บ “Data” และเลือก “Copilot”
    3. เลือก “Analyze Data”
    4. Copilot จะวิเคราะห์ข้อมูลและแสดงผลในรูปแบบของกราฟหรือสรุปข้อมูล
การออกแบบและการนำเสนอใน PowerPoint

การใช้งานฟีเจอร์ Copilot ใน PowerPoint

  • การสร้างสไลด์อัตโนมัติ:
    1. เปิด PowerPoint และสร้างงานนำเสนอใหม่
    2. คลิกที่แท็บ “Home” และเลือก “Copilot”
    3. เลือก “Create Slides”
    4. ระบุหัวข้อหรือข้อมูลที่ต้องการให้ Copilot สร้างสไลด์
    5. Copilot จะสร้างสไลด์นำเสนอจากข้อมูลที่ระบุ
  • การแนะนำการออกแบบสไลด์:
    1. เลือกสไลด์ที่ต้องการปรับปรุงการออกแบบ
    2. คลิกที่แท็บ “Design” และเลือก “Copilot”
    3. Copilot จะเสนอแนะการออกแบบที่เป็นมืออาชีพและน่าสนใจ
การเขียนและการจัดการอีเมลใน Outlook

การใช้งานฟีเจอร์ Copilot ใน Outlook

  • การเขียนอีเมล:
    1. เปิด Outlook และคลิก “New Email”
    2. คลิกที่แท็บ “Message” และเลือก “Copilot”
    3. พิมพ์เนื้อหาที่ต้องการให้ Copilot ช่วยตรวจสอบและแก้ไข
    4. Copilot จะเสนอคำแนะนำในการเขียนอีเมลที่ชัดเจนและเป็นมืออาชีพ
  • การตอบกลับอัตโนมัติ:
    1. เปิดอีเมลที่ต้องการตอบกลับ
    2. คลิกที่แท็บ “Message” และเลือก “Copilot”
    3. เลือก “Auto Reply”
    4. Copilot จะสร้างเนื้อหาตอบกลับอัตโนมัติตามเนื้อหาของอีเมลที่ได้รับ

การใช้งานฟีเจอร์ Copilot ใน Teams

  • การจดบันทึกการประชุม:
    1. เริ่มการประชุมใน Teams
    2. คลิกที่แท็บ “Meeting” และเลือก “Copilot”
    3. เลือก “Take Notes”
    4. Copilot จะจดบันทึกการประชุมและสร้างสรุปการประชุมอัตโนมัติ

3.วิธีใช้ Copilot

การสร้างโปรเจค

การสร้างโปรเจคใน Microsoft Teams

  • เปิด Microsoft Teams:
    • ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Microsoft 365 ของคุณ
    • เปิดแอป Microsoft Teams
  • สร้างทีมใหม่สำหรับโปรเจค:
    • คลิกที่ “Teams” ในแถบด้านซ้าย
    • คลิก “Join or create a team” และเลือก “Create team”
    • เลือก “Build a team from scratch” หรือเลือกจาก “Existing Office 365 group or team” หากต้องการสร้างจากกลุ่มที่มีอยู่แล้ว
    • ตั้งชื่อทีมและระบุคำอธิบายเกี่ยวกับโปรเจคของคุณ
    • เชิญสมาชิกทีมที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมทีม
  • สร้างช่องทาง (Channels):
    • สร้างช่องทางใหม่สำหรับแต่ละส่วนของโปรเจค เช่น การพัฒนา การทดสอบ การออกแบบ เป็นต้น
    • คลิกที่ทีมที่สร้างขึ้น จากนั้นคลิก “Add channel”
    • ตั้งชื่อช่องทางและระบุคำอธิบาย

การจัดการโปรเจคใน Microsoft Planner

  • เปิด Microsoft Planner:
    • เข้าไปที่ Microsoft Planner หรือเปิดผ่านแอป Microsoft 365
  • สร้างแผนโปรเจคใหม่:
    • คลิก “New Plan” และตั้งชื่อแผน
    • เลือกทีมที่สร้างขึ้นใน Microsoft Teams (ถ้ามี) เพื่อให้แผนถูกผูกกับทีมนั้น
    • คลิก “Create Plan”
  • สร้างและมอบหมายงาน (Tasks):
    • คลิก “Add Task” เพื่อสร้างงานใหม่
    • ตั้งชื่องาน ระบุวันที่กำหนด (Due Date) และมอบหมายงานให้กับสมาชิกทีมที่เกี่ยวข้อง
    • สามารถจัดกลุ่มงานเป็นหมวดหมู่ (Buckets) เช่น การพัฒนา การทดสอบ เป็นต้น

การใช้ Copilot ในการจัดการโปรเจค

  • การสร้างงานอัตโนมัติ:
    • ใช้ Copilot ใน Microsoft Planner เพื่อช่วยสร้างงานและกำหนดรายละเอียดต่างๆ โดยการป้อนข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับงาน
    • Copilot จะช่วยเสนอแนะการจัดการงานและมอบหมายให้กับสมาชิกทีม
  • การติดตามความคืบหน้า:
    • ใช้ Copilot ในการติดตามและวิเคราะห์ความคืบหน้าของโปรเจค โดยการแสดงรายงานสรุปสถานะงานต่างๆ
    • Copilot จะช่วยตรวจสอบงานที่ยังไม่เสร็จและเสนอแนะการแก้ไขปัญหาหรือการปรับปรุงกระบวนการทำงาน
  • การประชุมและการสื่อสาร:
    • ใช้ Copilot ใน Microsoft Teams เพื่อจดบันทึกการประชุมและสร้างสรุปการประชุมอัตโนมัติ
    • Copilot จะช่วยในการจัดการการประชุมและการสื่อสารภายในทีมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การใช้งาน Copilot ใน OneNote สำหรับการจัดการโปรเจค

  • การสร้างสมุดบันทึกโปรเจค:
    • เปิด OneNote และสร้างสมุดบันทึกใหม่สำหรับโปรเจค
    • สร้างหน้า (Pages) สำหรับแต่ละส่วนของโปรเจค เช่น เป้าหมาย แผนงาน บันทึกการประชุม เป็นต้น
  • การจดบันทึกและการจัดระเบียบข้อมูล:
    • ใช้ Copilot ในการจดบันทึกและจัดระเบียบข้อมูลต่างๆ ในสมุดบันทึก
    • Copilot จะช่วยในการจัดการข้อมูลและการค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ง่ายขึ้น

การจัดการไฟล์

การจัดการไฟล์ใน OneDrive

การอัปโหลดและการแชร์ไฟล์

  • อัปโหลดไฟล์:
    • เปิด OneDrive และเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Microsoft 365 ของคุณ
    • คลิก “Upload” และเลือก “Files” หรือ “Folder” เพื่ออัปโหลดไฟล์หรือโฟลเดอร์จากคอมพิวเตอร์ของคุณ
  • แชร์ไฟล์:
    • คลิกขวาที่ไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการแชร์ และเลือก “Share”
    • ระบุที่อยู่อีเมลของผู้ที่ต้องการแชร์ไฟล์หรือเลือก “Copy link” เพื่อสร้างลิงก์ที่สามารถแชร์ได้

การจัดการไฟล์ด้วย Copilot

  • การจัดเรียงและการค้นหาไฟล์:
    • ใช้ Copilot เพื่อช่วยจัดเรียงไฟล์ใน OneDrive โดยการจัดกลุ่มไฟล์ตามประเภทหรือวันที่
    • Copilot สามารถช่วยค้นหาไฟล์ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วโดยใช้คำสำคัญหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
  • การตั้งค่าการอนุญาต:
    • Copilot สามารถช่วยจัดการการอนุญาตในการเข้าถึงไฟล์ โดยแนะนำการตั้งค่าการอนุญาตที่เหมาะสมสำหรับแต่ละไฟล์หรือโฟลเดอร์

การจัดการไฟล์ใน SharePoint

การสร้างและการจัดการไลบรารีเอกสาร

  • สร้างไลบรารีเอกสาร:
    • เปิด SharePoint และเลือกไซต์ที่ต้องการสร้างไลบรารีเอกสาร
    • คลิก “New” และเลือก “Document Library”
    • ตั้งชื่อไลบรารีและระบุคำอธิบาย
  • จัดการไฟล์ในไลบรารีเอกสาร:
    • อัปโหลดไฟล์หรือสร้างไฟล์ใหม่ภายในไลบรารี
    • จัดเรียงไฟล์ตามเกณฑ์ที่ต้องการ เช่น วันที่แก้ไขล่าสุด ผู้สร้างไฟล์ เป็นต้น

การใช้งาน Copilot ใน SharePoint

  • การจัดเรียงและการจัดกลุ่มไฟล์:
    • Copilot สามารถช่วยจัดเรียงไฟล์ในไลบรารีเอกสารโดยอัตโนมัติ เช่น การจัดกลุ่มไฟล์ตามโครงการหรือทีมงาน
  • การค้นหาและการกรองไฟล์:
    • Copilot ช่วยในการค้นหาไฟล์ที่ต้องการโดยการใช้คำสำคัญหรือการกรองข้อมูลตามเกณฑ์ต่างๆ

การจัดการไฟล์ใน Microsoft Teams

การสร้างและการจัดการไฟล์ในทีม

  • สร้างช่องทางใหม่:
    • เปิด Microsoft Teams และเลือกทีมที่ต้องการสร้างช่องทางใหม่
    • คลิก “Add channel” และตั้งชื่อช่องทาง
  • อัปโหลดและจัดการไฟล์ในช่องทาง:
    • คลิกที่แท็บ “Files” ในช่องทางที่สร้างขึ้น
    • คลิก “Upload” เพื่ออัปโหลดไฟล์หรือโฟลเดอร์
    • จัดการไฟล์โดยการสร้างโฟลเดอร์หรือการย้ายไฟล์ภายในช่องทาง

การใช้งาน Copilot ใน Teams

  • การจัดเรียงไฟล์ในช่องทาง:
    • Copilot สามารถช่วยจัดเรียงไฟล์ในช่องทางตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น การจัดกลุ่มไฟล์ตามประเภทหรือผู้สร้าง
  • การค้นหาไฟล์ใน Teams:
    • ใช้ Copilot เพื่อช่วยค้นหาไฟล์ที่ต้องการในทีม โดยการใช้คำสำคัญหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
  • การตั้งค่าการอนุญาต:
    • Copilot สามารถช่วยจัดการการอนุญาตในการเข้าถึงไฟล์ในช่องทาง โดยแนะนำการตั้งค่าการอนุญาตที่เหมาะสม

การจัดการไฟล์ใน OneNote

การสร้างและการจัดการสมุดบันทึก

  • สร้างสมุดบันทึกใหม่:
    • เปิด OneNote และคลิก “New Notebook”
    • ตั้งชื่อสมุดบันทึกและเลือกตำแหน่งที่ต้องการบันทึก
  • จัดการหน้า (Pages) และส่วน (Sections):
    • สร้างหน้าและส่วนใหม่ภายในสมุดบันทึกเพื่อจัดระเบียบข้อมูล

การใช้งาน Copilot ใน OneNote

  • การจดบันทึกและการจัดระเบียบข้อมูล:
    • Copilot สามารถช่วยในการจดบันทึกและจัดระเบียบข้อมูลภายในสมุดบันทึก โดยแนะนำการจัดกลุ่มข้อมูลและการเพิ่มหัวข้อย่อย
  • การค้นหาบันทึก:
    • ใช้ Copilot เพื่อช่วยค้นหาบันทึกที่ต้องการในสมุดบันทึก โดยการใช้คำสำคัญหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

4.การแก้ไขปัญหา Copilot

ปัญหาที่พบบ่อยและวิธีแก้ไข

ปัญหา: ไม่พบฟีเจอร์ Copilot ในแอปพลิเคชัน

วิธีแก้ไข:

  • ตรวจสอบการอัปเดต: ตรวจสอบว่าแอปพลิเคชัน Microsoft 365 ของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุดหรือไม่ หากไม่ใช่ ให้ทำการอัปเดตแอปพลิเคชัน
  • ตรวจสอบการตั้งค่าบัญชี: ตรวจสอบว่าบัญชี Microsoft 365 ของคุณมีสิทธิ์การใช้งานที่รองรับ Copilot หรือไม่ หากไม่แน่ใจ ให้ติดต่อผู้ดูแลระบบขององค์กร
  • รีสตาร์ทแอปพลิเคชัน: ปิดแอปพลิเคชันและเปิดใหม่ เพื่อให้แน่ใจว่าได้โหลดฟีเจอร์ Copilot อย่างถูกต้อง

ปัญหา: Copilot ไม่สามารถเข้าใจหรือให้คำแนะนำที่ถูกต้อง

วิธีแก้ไข:

  • ตรวจสอบภาษา: ตรวจสอบว่าภาษาในการตั้งค่าของแอปพลิเคชันถูกต้องและตรงกับภาษาที่คุณใช้
  • ปรับปรุงข้อมูล: ให้ข้อมูลที่ชัดเจนและละเอียดมากขึ้น เพื่อให้ Copilot สามารถประมวลผลและให้คำแนะนำที่แม่นยำมากขึ้น
  • ใช้คำสำคัญ: ใช้คำสำคัญหรือคำที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่คุณต้องการให้ Copilot ช่วยเหลือ

ปัญหา: การแชร์ไฟล์กับ Copilot มีปัญหา

วิธีแก้ไข:

  • ตรวจสอบการอนุญาต: ตรวจสอบว่าคุณมีสิทธิ์การใช้งานในการแชร์ไฟล์หรือไม่ และไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่แชร์นั้นมีการตั้งค่าการอนุญาตที่เหมาะสม
  • ใช้ลิงก์แชร์: หากมีปัญหาในการแชร์โดยตรง ให้ลองสร้างลิงก์แชร์และส่งลิงก์นั้นให้ผู้ที่ต้องการเข้าถึง

ปัญหา: การซิงค์ไฟล์ใน OneDrive หรือ SharePoint ล้มเหลว

วิธีแก้ไข:

  • ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต: ตรวจสอบว่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณมีเสถียรภาพหรือไม่
  • รีสตาร์ทการซิงค์: ลองหยุดการซิงค์แล้วเริ่มใหม่อีกครั้ง
  • เคลียร์แคช: เคลียร์แคชของแอปพลิเคชัน OneDrive หรือ SharePoint อาจช่วยแก้ไขปัญหาการซิงค์

ปัญหา: Copilot ใช้เวลานานในการประมวลผล

วิธีแก้ไข:

  • ลดขนาดข้อมูล: หากข้อมูลที่ประมวลผลมีขนาดใหญ่ ลองแบ่งข้อมูลเป็นส่วนย่อยๆ เพื่อลดเวลาในการประมวลผล
  • ตรวจสอบทรัพยากรระบบ: ตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์ของคุณมีทรัพยากรเพียงพอ เช่น หน่วยความจำ (RAM) และพื้นที่ว่างในดิสก์

ปัญหา: การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวไม่เหมาะสม

วิธีแก้ไข:

  • ปรับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว: ไปที่ “File” > “Options” > “Trust Center” > “Trust Center Settings” และปรับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ

ปัญหา: ไม่สามารถติดตั้ง Copilot ได้

วิธีแก้ไข:

  • ตรวจสอบความเข้ากันได้: ตรวจสอบว่าอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการของคุณรองรับการติดตั้ง Copilot หรือไม่
  • ติดต่อฝ่ายสนับสนุน: หากยังไม่สามารถติดตั้งได้ ให้ติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Microsoft หรือผู้ดูแลระบบขององค์กร

5.เคล็ดลับและเทคนิคพิเศษ

การใช้คำสั่งเฉพาะใน Copilot

  • ใช้คำสั่งแบบเจาะจง: การระบุคำสั่งแบบเจาะจงจะช่วยให้ Copilot เข้าใจและให้คำแนะนำที่ตรงกับความต้องการของคุณ เช่น ใน Word ใช้คำสั่ง “Rewrite this paragraph in a more formal tone” เพื่อปรับปรุงเนื้อหาให้เป็นทางการมากขึ้น

การทำงานร่วมกับไฟล์หลายไฟล์

  • การรวมไฟล์: ใน Excel ใช้ Copilot เพื่อช่วยรวมข้อมูลจากหลายไฟล์เข้าด้วยกัน โดยใช้คำสั่ง “Combine data from these sheets” เพื่อสร้างรายงานที่ครอบคลุม

การจัดการเวลาและการติดตามงาน

  • การติดตามเวลา: ใช้ Copilot ใน Outlook และ Teams เพื่อติดตามและจัดการเวลาการประชุมและงานต่างๆ โดยใช้คำสั่ง “Summarize the meeting” หรือ “Track my tasks”

การปรับแต่งการแนะนำของ Copilot

  • ปรับแต่งการตั้งค่า: ไปที่การตั้งค่าในแต่ละแอปพลิเคชัน เช่น Word, Excel, PowerPoint เพื่อปรับแต่งการแนะนำของ Copilot ให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของคุณ

การเพิ่มประสิทธิภาพการเขียนและการสร้างสรรค์

  • การสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ: ใน Word ใช้คำสั่ง “Generate a summary of this document” เพื่อสร้างบทสรุปอัตโนมัติ หรือใช้ “Create a presentation based on this text” ใน PowerPoint เพื่อสร้างสไลด์นำเสนอจากข้อความที่มีอยู่

การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง

  • การวิเคราะห์ข้อมูล: ใช้ Copilot ใน Excel เพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง เช่น การสร้าง PivotTable อัตโนมัติด้วยคำสั่ง “Create a PivotTable for this data”

การจัดการอีเมลและการสื่อสาร

  • การตอบกลับอัตโนมัติ: ใน Outlook ใช้คำสั่ง “Draft a response to this email” เพื่อให้ Copilot ช่วยเขียนตอบกลับอีเมลอย่างรวดเร็วและเป็นมืออาชีพ

การใช้การสรุปและการแจ้งเตือน

  • การสรุปอัตโนมัติ: ใช้ Copilot เพื่อสร้างสรุปของอีเมลหรือการประชุมใน Teams ด้วยคำสั่ง “Summarize this email thread” หรือ “Summarize the key points of this meeting”

การประยุกต์ใช้ในงานประจำวัน

  • การช่วยเหลือในงานประจำวัน: ใช้ Copilot เพื่อช่วยในงานที่ทำเป็นประจำ เช่น การเขียนรายงาน การสร้างกราฟใน Excel หรือการเตรียมสไลด์นำเสนอใน PowerPoint

สรุป:

Copilot ใน Microsoft 365 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดเวลาในหลายงาน แต่ยังคงมีข้อจำกัดในด้านความแม่นยำและการใช้ทรัพยากรระบบ ผู้ใช้ที่มีความเชี่ยวชาญจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้งาน Copilot.

หากลูกค้าท่านใดสนใจ หรือสอบถามข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ตามด้านล่างนี้เลยนะคะ👇🏻

☎️ : 02-2451335-7

📩 : Sales@askme.co.th

🌐 : https://www.askme.co.th/

Line official : @askme

 

Related Posts
Microsoft Copilot คืออะไร
#Copilot

/*! elementor - v3.23.0 - 05-08-2024 */ .elementor-heading-title{padding:0;margin:0;line-height:1}.elementor-widget-heading .elementor-heading-title[class*=elementor-size-]>a{color:inherit;font-size:inherit;line-height:inherit}.elementor-widget-heading .elementor-heading-title.elementor-size-small{font-size:15px}.elementor-widget-heading Read more

การใช้งาน Copilot ใน Microsoft 365
Copilot ทำงานร่วมกับ Word, Excel, Power Point, Teams, Outlook

Microsoft Copilot - ทำอะไรได้บ้าง ??     Microsoft Copilot Read more

ความแตกต่างระหว่าง Copilot และ ChatGPT
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Copilot และ Chat GPT

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว การทำงานและการใช้ชีวิตของเราก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การมีเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนในชีวิตประจำวันกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือ Microsoft Copilot และ ChatGPT สองผู้ช่วยอัจฉริยะที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการทำงานและการใช้ชีวิตของเราในรูปแบบที่แตกต่างกันMicrosoft Copilot Read more

Dynatrace AI – เทคโนโลยี AI-Driven สำหรับ Application Performance Monitoring และ Observability
Dynatrace Davis AI

Dynatrace คืออะไร? Dynatrace เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำในด้าน Application Performance Monitoring (APM) และ Observability Read more